มะม่วง

มะม่วง สุกกับประโยชน์ ชวนกันมารู้จักถึงผลไม้ชนิดนี้

มะม่วง ผลไม้ยอดฮิตที่หลายคนชอบทาน นอกจากทำเป็น เมนูมะม่วง ยอดฮิต อย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง แล้ว รู้หรือไม่ว่า มันยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการที่คุณอาจคาดไม่ถึงอีกด้วย หากอยากรู้ว่ามะม่วงมีดีอย่างไร แอดมิน จะเล่าให้ฟัง รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะหลงรักการทานผลไม้ชนิดนี้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

มะม่วง

มะม่วง น้ำดอกไม้สุก

บ้านเรามีผลไม้ตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงหน้าร้อนแล้วละก็ มะม่วงขึ้นชื่อเป็นที่หนึ่ง แต่คุณรู้หรือเปล่าว่า… มะม่วงสุก พันธุ์น้ำดอกไม้นั้นมีประโยนช์มากกว่าความหวาน หอม และอร่อยของมัน มะม่วงสุก พันธุ์น้ำดอกไม้เป็นผลไม้อันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งการเกิดมะเร็งได้อีกด้วย…ข้อดีสองสองนี้จึงช่วยให้มะม่วงสุก พันธุ์น้ำดอกไม้ขายดิบขายดี

เราลองมาดูกันซิว่า.. มะม่วงน้ำดอกไม้สุกนั้น จะช่วยต้านทานโรคได้อย่างไร? เนื่องจากมะม่วงสุก พันธุ์น้ำดอกไม้อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene)ในปริมาณสูงกว่าพันธ์ุอื่น ๆ รวมทั้งมีวิตามินซี (High vitamin C) และอี (Vitamin E) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ในร่างกายของคนเรา และที่สำคัญอย่างเจ้าเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Boost immune System) ยับยั้งการก่อกลายพันธ์ ป้องกันเนื้องอก ลดความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็ง ต้อกระจก และหัวใจได้อีกด้วย รู้อย่างนี้ก็โล่งอกไปหน่อย แต่อย่าลืมว่ามะม่วงน้ำดอกไม้สุก มีน้ำตาลอยู่มาก ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะ

โดยในเว็บไซต์ USDA ได้ระบุว่า มะม่วงดิบปริมาณ 100 กรัมมีคุณค่าทางอาหารดังนี้

  • น้ำ 83.46 กรัม
  • พลังงาน 60 กิโลแคลอรี
  • โปรตีน 0.82 กรัม
  • ไฟเบอร์ 1.6 กรัม
  • น้ำตาล 13.66 กรัม
  • แคลเซียม 11 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 0.16 มิลลิกรัม
  • แมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 168 มิลลิกรัม
  • โซเดียม 1 มิลลิกรัม
  • สังกะสี 0.9 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 36.4 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 6 0.119 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 1,082 ยูนิต

ทำความรู้จัก มะม่วง

มะม่วง จัดเป็นต้นไม้ แบบไม้ยืนต้น เติบโตได้ดีในเขตร้อน ลำต้นตรงยาว สูง 10 – 15 เมตร พุ่มไม้มีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลมหรือรูปไข่ ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตัวแบบสลับบนกิ่ง รูปหอกยาว แกมขอบขนาน โคนมนแหลม ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง สีของดอกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีทั้งสีแดง ชมพู หรือ ขาว

สำหรับผลมะม่วง ที่เรานำมารับประทานนั้น รูปร่างมักมีลักษณะกลมไปจนถึงรูปไข่เรียวยาว หากยังเป็นผลดิบอยู่ เปลือกมักมีสีเขียว เนื้อแน่นแข็ง มีรสหวานหรือเปรี้ยวแล้วแต่สายพันธุ์ เมื่อผลสุก เปลือกจะมีสีเหลือง เนื้อจะอ่อนนุ่ม มีรสชาติหวานหอม ส่วนใหญ่จะออกผลช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม

ด้วยความที่มะม่วง เป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานทั้งแบบดิบหรือสุกก็ได้ ทำให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ถึงขนาดที่สามารถส่งออกได้เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากฟิลิปปินส์ และ เม็กซิโก เลยทีเดียว

สายพันธุ์ของ มะม่วง

มะม่วง มีหลากหลายสายพันธุ์เช่นเดียวกันผลไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งพบว่ามะม่วงมีมากกว่า 50 สายพันธุ์ แต่ที่ได้รับความนิยมที่สุด ก็คือ มะม่วงเขียวเสวยและมะม่วงน้ำดอกไม้ ส่วนมะม่วงสายพัธุ์ที่นิยมปลูกในไทยมากที่สุด ได้แก่

  1. มะม่วงเขียวเสวย เป็นมะม่วงสายพันธุ์พื้นเมืองของนครปฐม โดยจะมีลักษณะผลยาว ปลายแหลมและด้านหลังโค้งนูนเล็กน้อย ส่วนเปลือกจะมีสีเขียวเข้มและหนาพอสมควรโดยรสชาติของมะม่วงชนิดนี้จะมีรสมัน ไม่หวาน ไม่เปรี้ยว และมีเนื้อกรอบ
  2. มะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นมะม่วงที่นิยมนำมากินสุกมากกว่ากินดิบ โดยจะมีรูปร่างผลมะม่วงเรียวยาว เมื่อดิบจะมีเนื้อสีขาว แต่เมื่อสุกจะมีสีหลืองนวลและมีรสชาติหวานอร่อยมากทีเดียว
  3. มะม่วงอกร่อง เป็นสายพันธุ์ที่มีความเก่าแก่มาก โดยส่วนใหญ่จะนิยมทานกับข้าวเหนียวมูนมากที่สุด โดยมะม่วงสายพันธุ์นี้จะมีรูปร่างผลค่อนข้างเล็ก มีร่องเป็นแนวยาวด้านท้อง เมื่อผลสุกจะมีเนื้อละเอียดและรสชาติอร่อยพอควร
  4. มะม่วงฟ้าลั่น เป็นมะม่วงที่มีรสชาติมันเช่นเดียวกับมะม่วงเขียวเสวย มีผลกลม ท้ายแหลม แต่ปอกเปลือกยากพอสมควร เพราะเมื่อปอกเปลือกเนื้อมะม่วงจะปริแตกนั่นเอง
  5. มะม่วงมหาชนก เป็นมะม่วงที่ผสมระหว่างมะม่วงพันธุ์หนังกลางวันกับพันธุ์ซันเซ็ตของอินเดีย ซึ่งผลจะมีลักษณะยาวรี มีสีเหลืองเข้มและมีริ้วสีแดง ส่งกลิ่นหอมน่าทาน
  6. มะม่วงหนังกลางวัน มีลักษณะผลยาวคล้ายกับงาช้าง เปลือกจะมีสีเขียวแก่จัดและมีรสชาติมันอมเปรี้ยว แต่เมื่อสุกจะมีรสหวานมาก
  7. มะม่วงแก้ว เป็นมะม่วงที่มีลักษณะผลอ้วนป้อม เปลือกเหนียว นิยมนำมากินดิบมากที่สุด โดยมะม่วงชนิดนี้เมื่อเกือบสุก เปลือกจะเป็นสีอมส้มหรืออมแดง
  8. มะม่วงโชคอนันต์ เป็นมะม่วงที่มีการกลายพันธุ์มาจากมะม่วงป่า ซึ่งจะมีลักษณะผลยาว ปลายมนเล็กน้อย และนิยมนำมาทำมะม่วงดองที่สุด ส่วนรสชาติ เมื่อดิบจะมีรสเปรี้ยวหรือมัน และเมื่อสุกจะมีรสหวาน สามารถนำไปทำเมนูของหวานเช่น ข้าวเหนียวมะม่วงหรือน้ำมะม่วงปั่นได้ประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารของมะม่วง
  • ประโยชน์ของมะม่วง

“มะม่วง” ผลไม้หน้าร้อนที่รสชาติดีถูกใจชาวไทยและต่างชาติ อร่อยอย่างเดียวไม่พอยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย แถมยังกินง่าย จะสุกหรือดิบนำไปทำเมนูไหนก็ฟิน

  1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
    ในมะม่วงนั้นเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ของคุณจากอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังมีผลวิจัยกล่าวไว้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระในมะม่วงช่วยชะลอความแก่ และยังต้านโรคเรื้อรังต่างๆ ได้อีกด้วย
  2. เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย
    มะม่วงเป็นแหล่งของวิตามินเอ ซึ่งช่วยเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อต่างๆ มีวิตามินซีที่มีคุณสมบัติช่วยร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวต่อสู้กับโรค เสริมให้เซลล์เหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นมะม่วงยังมีโฟเลต วิตามินเค วิตามินอี และวิตามินบีหลายชนิดซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเช่นกัน
  3. บำรุงหัวใจ
    จากการศึกษาพบว่า มะม่วงมีแมกนีเซียม และโพแทสเซียมซึ่งช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ให้หลอดเลือดผ่อนคลาย ลดความดันโลหิต มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า แมงจิเฟอริน ช่วยปกป้องหัวใจจากภาวะความเครียดต่างๆ แถมยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกต่างหาก
  4. เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร
    ในมะม่วงมีน้ำและกากใยมาก (โดยเฉพาะมะม่วงสุก) ที่ช่วยแก้ปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูกและท้องเสีย จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคท้องผูกเรื้อรังบริโภคมะม่วงทุกวันช่วยบรรเทาท้องผูกได้ดีกว่าการใช้อาหารเสริมต่างๆ เพราะงั้นใครขับถ่ายยากลองปั่นสมูทตี้มะม่วงกินสักแก้วจะเป็นไรไป
  5. บำรุงสายตา
    อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ในมะม่วงนั้นเต็มไปด้วยวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา บรรเทาอาการตาแห้ง นอกจากนั้นยังมีลูทีนและแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งช่วยปกป้องดวงตาจากแสงแดด และแสงสีน้ำเงินจากหน้าจอโทรศัพท์ของคุณนั่นยังไงล่ะ
  6. ดูแลสุขภาพผมและผิว
    วิตามินซีที่อยู่ในมะม่วงนอกจากจะช่วยเสริมภูมิต้านทานแล้ว ยังช่วยสร้างคอลลาเจนทำให้เส้นผมแข็งแรง กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม สร้างความชุ่มชื้น และยังทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ต้านการหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ สายบิวตี้รู้แบบนี้ยิ้มกริ่มเลยล่ะสิ
  7. ลดความเสี่ยงในโรคมะเร็งบางชนิด
    มะม่วงมีโพลีฟีนอลสูงซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง งานวิจับพบว่า โพลีฟีนอยด์ช่วยลดความเครียดและหยุดการเจริญเติบโตหรือทำลายเซลล์มะเร็งหลายชนิดรวมถึงมะเร็งต่างๆ อาทิ เม็ดเลือดขาว ลำไส้ใหญ่ ปอด ต่อมลูกหมาก และเต้านมด้วยนะ
  8. ลดน้ำหนัก
    เนื้อมะม่วงแสนอร่อยของเรานั้นเต็มไปด้วยเส้นใยอาหาร ที่นอกจากจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้นแล้วยังช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน อยู่ท้อง ช่วยป้องกันไม่ให้คุณกินขนมขบเคี้ยวที่ทำให้น้ำหนักตัวพรุ่งปรี๊ด

แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะด้วยนะ เพราะในมะม่วงก็มีน้ำตาลไม่น้อยเช่นกัน

FAQ

สรุป

ผลมะม่วงนำมากินได้ทั้งดิบและสุก มะม่วงดิบเปลือกสีเขียวเนื้อสีขาวส่วนใหญ่มีรสเปรี้ยว ยกเว้นบางพันธุ์ที่เรียกว่ามะม่วงมัน ส่วนผลสุกจะมีสีเหลืองทั้งเปลือกและเนื้อ กินสด หรือ นำไปทำเป็นอาหารเช่น ข้าวเหนียวมะม่วง อีกทั้งมีการนำไปแปรรูป เช่น มะม่วงกวน มะม่วงแก้ว มะม่วงดอง มะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงเค็ม น้ำแยมมะม่วง พายมะม่วง เป็นต้น

อ้างอิง : bread-at-home.com,th.wikipedia.org


ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ daysinncarlisle.com อัพเดตทุกสัปดาห์

แทงบอล

Releated